ข้อมูลเรื่องบิมกับความดันต่ำ จากเภสัชกรศานติค่ะ
"การ์ซีเนีย แคปซูลจะไม่เหมาะสำหรับคนที่มีความดันต่ำครับ
เพราะมีข้อมูลว่าคนที่เป็นความดันโลหิตต่ำทานการ์ซีเนียแล้วรู้สึกหน้ามืด เวียนศีรษะ เพราะความดันต่ำครับ"
cr.@แมว ณัฏฐ์ภิชาBIM100 ห้อง ไลน์ born2bimteam
ความรู้เรื่อง LIV กับเชื้อ HIV
ไวรัส hiv อยู่ที่พื้นผิวของเซลเม็ดเลือดขาว ทำให้การฆ่าเชื้อต้องฆ่าเซลเม็ดเลือดขาวด้วย
ต้องทำ 2 ทาง คือเพิ่ม cd4 ด้วย และฆ่าไวรัสด้วย
ฆ่าไวรัสด้วยจะไม่ไปกิน cd4 มียาต้านบางตัวที่ไปทำลาย cd4 ทำให้ cd4 ไม่เพิ่ม (ยาต้านทำหน้าที่ฆ่าไวรัส hiv)
เมื่อกระตุ้น th17 แล้ว ยังเพิ่ม th1 th9 3 ตัวนี้ไม่ฆ่าเชื้อ hiv แต่ติด turbo กระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้ไปจัดการ hiv
ไวรัส hiv ไม่แบ่งตัว แต่ copy ด้วยตัวมันเอง สรรพคุณ GM1 ที่ค้นพบจึงสามารถจัดการกับเชื้อได้
cr.@แมว ณัฏฐ์ภิชาBIM100 ห้อง ไลน์ born2bimteam
วิวัฒนาการใหม่ล่าสุดในการดูแลสุขภาพ ด้วยอาหารเป็นยา !!!
ภูมิสมดุล คืออะไร?
Operation BIM คือผลงานวิจัยของคณะนักวิทยาศาสตร์ไทยจากศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทยที่ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นำโดยศาสตราจารย์ ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ซึ่งได้ทำการวิจัยสารธรรมชาติ GM-1 ในมังคุดอย่างจริงจังและต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานกว่า 30 ปี ซึ่งได้รวมสารสกัดจากผลไม้และธัญพืชของไทยที่มีประโยชน์ทางคุณค่า โภชนาการสูง 5 ชนิดไว้ด้วยกัน
- ได้แก่ มังคุด ฝรั่ง งาดำ ถั่วเหลือง และใบบัวบก โดยสกัดเอาแต่เฉพาะส่วนที่เป็นประโยชน์แล้วผสมเข้ากันในลักษณะเสริมฤทธิ์ให้สารสกัดเด่น GM-1 ในผลมังคุดให้สามารถดูแลโรคผ่านภูมิคุ้มกันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ซึ่งคือการดูแลภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ทำงานได้อย่างเป็นปกติที่สุด) จนได้ผลิตภัณฑ์ซึ่งเห็นผลชัดเจนกว่า 90% ในการเพิ่มและปรับสมดุลย์ภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงอยู่ในระดับพอเหมาะที่ภูมิคุ้มกันแข็งแรงและสมดุลย์อยู่ตลอดเวลา ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นอย่างปลอดภัยไร้ผลข้างเคียงโดยไม่มีสารตกค้าง ผลิตภัณฑ์ทุกตัวมี อย. รับรองและได้มาตรฐานที่สามารถส่งออกไปจำหน่ายได้ในตลาดโลก
ผลิตภัณฑ์ Operation BIM มีผลต่อการดูแลโรคให้หายได้ผ่านการปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุลย์ 2 กรณีดังนี้
กรณีที่1 - โรคที่เกิดจากการแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง ที่ภูมิคุ้มกันมีการทำงานผิดปกติโดยมีการหลั่งสารภูมิคุ้มกันบางอย่างเช่น Th1, Th2, และ Th17 ในปริมาณที่มากเกินไปจนภูมิคุ้มกันหันมาทำร้ายตัวเอง หรือที่เรียกว่า "แพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง" ในกรณีนี้ Operation BIM จะปรับลดการหลั่งค่า Th ต่างๆ ให้ลดลงมาหลั่งอยู่ในระดับสมดุลย์ได้ ทำให้ภูมิคุ้มกันกลับมาทำงานได้อย่างเป็นปกติและไม่หันไปทำร้ายอวัยอวัยวะใดๆ ของตัวเองเพิ่ม จึงทำให้อาการ "แพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง" ลดลงและหายเป็นปกติได้ เช่น ข้อเสื่อม รูมาตอรย์ SLE
กรณีที่2 - โรคที่เกิดจากสุขภาพร่างกายอ่อนแอ เพราะภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ลดเหลืออยู่น้อยมากๆ อาจเพราะได้รับสารตกค้างในอาหารสะสมเป็นเวลานาน สารพิษจากควันรถ ควันบุหรี่ มลภาวะต่างๆ ในอากาศ หรืออะไรหลายๆ อย่างประกอบกัน กรณีนี้ร่างกายจะติดเชื้อได้ง่ายจนเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้น เพราะร่างกายเหลือภูมิคุ้มกันไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เซลล์มะเร็ง หรือเซลล์ร้ายอื่นๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย กรณีนี้ Operation BIM สามารถกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันเกิดการสร้าง Th1, Th2, และ Th17 ให้เพิ่มกลับมามีจำนวนมากอยู่ในระพอเหมาะที่ภูมิคุ้มกันแข็งแรงและสมดุลย์
เมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้นแล้ว ภูมิคุ้มกันที่เพิ่มขึ้นก็จะช่วยให้ร่างกายสามารถจัดการกับโรคต่างๆ ให้หายไปได้เองตามธรรมชาติของร่างกายที่มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงและสมดุลย์
Operation BIM ไม่ใช่ยาจึงไม่มีผลข้างเคียงต่อตับและใตในระยะยาว และไม่ได้มีผลโดยตรงในการรักษาโรค แต่ Operation BIM เป็นวิธีการบำบัดโรคแนวใหม่โดยอาศัยหลักการเสริมสร้างและปรับสมดุลย์ภูมิคุ้มกันในร่างกายให้อยู่ในระดับพอเหมาะที่แข็งแรงและสมดุยล์อยู่ตลอดเวลา คือไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นแล้วร่างกายก็สามารถดูแลและจัดการกับสิ่งแปลกปลอม หรืออาการผิดปกติจนเกิดการเจ็บป่วยต่างๆ ให้หายไปได้เองตามธรรมชาติของร่างกายที่มีภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับพอเหมาะที่แข็งแรง
การค้นพบครั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถช่วยให้ประชากรโลก และประชาชนคนไทยทุกคนสามารถมีอายุที่ยืนยาวขึ้น มีสุขภาพที่แข็งแรง คุณภาพชีวิตดีขึ้น และได้มีเวลาอยู่มีความสุขกับครอบครัวที่คุณรัก และคนที่รักคุณได้อย่างยาวนานด้วยอายุที่ยืนยาวขึ้นอย่างปลอดภัยไร้ผลข้างเคียง ด้วยอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนจากผลไม้และธัญพืชในประเทศไทย ซึ่งมีผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์อย่างชัดเจน
เครดิต : ภูมิสมดุล Online
cr.@แมว ณัฏฐ์ภิชาBIM100 ห้อง ไลน์ born2bimteam
อบรม ถาม-ตอบ เภสัชศานติ วันนที่ 4พค.2559
บิมโอ ยังไม่สามารถใช้กับผู้มีปัญหาดวงตา ดังต่อไปนี้
- ตาบอดสี
- ตามัวเนื่องจากเซลสมองรับภาพ (บิมยังไม่มีข้อมูล)
- จอตาแคบลง จากเซลประสาทตา (บิมยังไม่มีข้อมูล)
น้ำมังคุดบิมสามารถทานพร้อมอาธรินอก หรือ นอไรซิส แคปซูลได้
น้ำมังคุดบิม ต้องทานแยกกับการ์ซีเนีย หรือ ทูมอริด แคปซูล
การ์ซีเนีย สกินครีม ใช้กับแผลเปิด แผลสด แผลเบาหวาน ได้
น้ำมังคุดบิม ประกอบด้วย เนื้อ+เมล็ด
น้ำมังคุด โกลด์เชฟ ดริ้ง (hca) มีคุณสมบัติ
- ลดไขมันส่วนเกิน
- ช่วยยับยั้งการสร้างไขมัน เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซล ทำให้เยื่อหุ้มเซลน้อยลง เซลมะเร็งถูกจัดการง่าย
ข้อจำกัดของน้ำมังคุด โกลด์เชฟ ดริ้ง (hca)
- มะเร็งกระเพาะ
- มะเร็งหลอดอาหาร
- เบาหวาน
- ปวดข้อเข่า
สี่โรคล่างนี้ ไม่สามารถดื่มได้ หรือไม่สามารถรักษาได้ครับ
Hca จะไปทำให้เนื้อเยื่อที่อักเสบมากขึ้นเพราะมีฤทธิ์เป็นกรดค่ะ
ส่วนเบาหวาน ทำให้น้ำตาลขึ้นค่ะ
ทานการ์ซีเนียแล้วเสมหะมาก ให้สังเกตุตัวเอง ตามแพทย์แผนจีนคือข้างในเย็น ปอดชื้น ให้ปรับการทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็น ทานการ์ซีเนียไปเรื่อยๆ ไม่ต้องหยุด
แชร์ประสบการณ์ : โรคหลอดลมอักเสบ จะไอ เสียงแห้ง ใช้เสียงเยอะ ให้ทานน้ำมังคุดอย่างเดียวติดต่อกัน 2-3 เดือน อาการดีขึ้น
อาการปวดเข่ามากๆ ให้ทานอา+น้ำมังคุดในมื้อเดียวกัน อาการจะดีขึ้นเร็วมาก
ชะอม ชะพลู ผักยอดๆ มีกรดยูริคเยอะ คนปวดเข่าทานแล้วจะยิ่งปวด หากทานบิมชมพูอยู่แล้วยังปวดเข่ามาก ให้เช็คเรื่องอาหารด้วยว่า มีทานอาหารที่มีกรดยูริคด้วยหรือไม่
ถ้าไม่มีปัญหาเบาหวาน ไต แล้วปวดเข่ามากทานน้ำมังคุดแล้วจะสามารถทานอาหารได้ทุกอย่าง ไม่มีปัญหา
cr.@แมว ณัฏฐ์ภิชาBIM100 ห้อง ไลน์ born2bimteam
ไขมันพอกตับ แนะนำให้ใช้ทริมวัน พาวเดอ + น้ำมังคุด + การ์ซีเนีย ค่ะ
โรคไขมันพอกตับ !!!! ภัยเงียบของคนอ้วน
โรคไขมันพอกตับ หลายคนอาจคิดว่าโรคนี้มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว โรคไขมันพอกตับอาจเกิดจากการสังเคราะห์ไขมันในตับผิดปกติ
โดยความผิดปกติและพัฒนาการของโรคจะดำเนินไปเช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคตับกลุ่มติดสุรา แต่ที่น่ากลัว คือ ผู้ป่วยมักจะไม่ทราบถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น จึงไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่แรกเริ่มที่เป็นโรค ซึ่งแบ่งได้เป็น 4 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 เป็นระยะมีไขมันก่อตัวอยู่ในเนื้อตับ ซึ่งไม่ได้ก่อให้เกิดผลใดๆ
ระยะที่ 2 เป็นระยะที่เริ่มมีอาการอักเสบของตับ ในระยะนี้หากไม่ควบคุมดูแลให้ดี และปล่อยให้การอักเสบดำเนินไปเรื่อยๆ เกินกว่า 6 เดือน จะกลายเป็นตับอักเสบเรื้อรัง
ระยะที่ 3 เป็นระยะที่มีการอักเสบรุนแรง ก่อให้เกิดพังผืดในตับ เซลล์ตับค่อยๆ ถูกทำลายลง
ระยะที่ 4 เป็นระยะที่เซลล์ตับถูกทำลายไปมาก ตับไม่อาจทำงานได้ตามปกติอีกต่อไป ตับแข็ง และอาจกลายเป็นมะเร็งตับ
ในประเทศไทยมีแนวโน้มพบผู้ป่วยโรคนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
โดยโรคไขมันพอกตับนี้แทบจะไม่แสดงอาการ หรืออาจแสดงอาการเพียงเล็กน้อย เช่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ มีอาการตึงๆ บริเวณใต้ชายโครงขวา แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะพบโรคนี้ด้วยความบังเอิญเมื่อมารับการตรวจสุขภาพประจำปี หรือตรวจอัลตราซาวด์เพื่อรักษาโรคอื่น
โรคไขมันพอกตับ หรือไขมันเกาะตับ หรือไขมันจุกตับ คือ โรคที่มีไขมันเข้าไปอยู่ในเซลล์ตับเกินปกติ คือ ประมาณ 5-10% ของตับโดยน้ำหนัก โดยทั่วไปมักเป็นไขมันชนิดไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งจะพบใน 75% ในคนที่เป็นโรคอ้วน 50.1% ของผู้ป่วยเบาหวาน และ 57.7% ของผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำ
โดยวินิจฉัยได้จากการตรวจอัลตราซาวด์และตรวจเลือดดูค่าตับ หากไม่ได้รับการรักษา จะนำไปสู่โรคตับอักเสบ ตับแข็ง หรือมะเร็งตับได้ในที่สุด
แนวทางรักษา คือ การลดละเลิกเหล้า แอลกอฮอล์ ควบคุมอาหาร ลดน้ำหนัก เลิกกินขนมจุกจิก ขนมขบเคี้ยว ลดแป้ง ลดหวาน ลดการรับประทานเนื้อแดงจากสัตว์ใหญ่ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว งดดื่มน้ำอัดลมและน้ำผลไม้ปรุงแต่ง บริโภคอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตชนิดที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำ ผัก และควรออกกำลังกายเป็นประจำ
สมุนไพรทางเลือกบำรุงตับ และสามารถใช้ในภาวะไขมันพอกตับได้ ได้แก่ ขมิ้นชัน มะขามป้อม หรือสมอไทย ลูกใต้ใบ รางจืด สิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยก็คือ การไปพบแพทย์ตามนัดสม่ำเสมอ และติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง
ที่มา : เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์
ภาพ : tee1infinity.com
cr.@แมว ณัฏฐ์ภิชาBIM100 ห้อง ไลน์ born2bimteam
<script type="text/javascript" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<script type="text/javascript">// </script>
หน้าที่เข้าชม | 6,491 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 4,919 ครั้ง |
เปิดร้าน | 12 ส.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 4 ก.ย. 2568 |